ทีวีดิจิตอลคืออะไร มีประโยชน์อย่างไรกับเรา
แล้วเราจำเป็นต้องซื้อทีวีเครื่องใหม่หรือเปล่านะ
หากใครกำลังสงสัยเรื่องของทีวีดิจิตอลอยู่ ตามมาฟังทางนี้เลย...
ช่วงปลายปีที่ผ่านมา
แวดวงสื่อมวลชนให้ความสนใจกับการเปิดประมูลทีวีดิจิตอลเป็นอย่างมาก
เพราะถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของวงการโทรทัศน์บ้านเรา
ดังจะเห็นได้ว่าแต่ละบริษัทยอมทุ่มไม่อั้นรวมเม็ดเงินกว่า 5 หมื่นล้านบาท
เพื่อให้ได้รับใบอนุญาต แต่สำหรับคนทั่วไปอย่างเรา ๆ แล้ว
คงจะนึกสงสัยอยู่ในใจว่า "ทีวีดิจิตอล คืออะไร"
แล้วถ้าเราจะชมต้องซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่เพื่อให้รองรับระบบดิจิตอลหรือ
เปล่าล่ะ ทุกคำตอบอยู่ที่นี่แล้ว !
ทีวีดิจิตอล คืออะไรกันนะ ?
ก่อนจะรู้จัก ทีวีดิจิตอล หรือโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (Digital
Television) ต้องรู้ก่อนว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ระบบรับสัญญาณโทรทัศน์ในโลกใช้เป็นระบบอนาล็อก (Analog)
แต่ในช่วงหลายปีหลังมานี้ เทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์ได้รับการพัฒนาอย่างมาก
จึงถูกนำมาผสมผสานกับเทคโนโลยีของระบบรับสัญญาณโทรทัศน์
จนเกิดระบบดิจิตอลขึ้นนั่นเอง
แล้วรู้ไหมว่า
ภาพและเสียงที่ส่งผ่านระบบดิจิตอลจะมีความคมชัดสูงกว่าระบบอนาล็อกมาก
และยังส่งข้อมูลได้มากกว่าระบบอนาล็อกในหนึ่งช่องสัญญาณด้วย เรียกว่า
"Multicasting" นั่นจึงทำให้หลาย ๆ
ประเทศเริ่มเปลี่ยนการรับสัญญาณโทรทัศน์จากระบบอนาล็อกมาเป็นโทรทัศน์ระบบ
ดิจิตอลกันแล้ว อย่างที่เราเห็นว่าช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้
มีผลิตภัณฑ์โทรทัศน์ Wide Screen และโทรทัศน์ความคมชัดสูง (HDTV)
ออกมาตีตลาดกันมากมายเลยทีเดียว
แล้วทำไมถึงต้องเปลี่ยนจากระบบอนาล็อกเป็นระบบดิจิตอลด้วยล่ะ ?
มีข้อตกลงตามมติที่ประชุมรัฐมนตรีสารสนเทศอาเซียน หรือ AMRI
(ASEAN Ministers Responsible for Information)
ว่าทุกประเทศจะต้องแพร่ภาพโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอลได้
และต้องยุติการออกอากาศระบบอนาล็อกในช่วงปี 2558-2563 ดังนั้น
ประเทศไทยก็ต้องเร่งผลักดันให้ทีวีดิจิตอลเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
เพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้
แล้วอย่างที่ทราบแล้วว่า ระบบดิจิตอล
จะช่วยให้เรารับชมโทรทัศน์ด้วยคุณภาพสัญญาณที่ดีขึ้น พร้อมเสียงในระบบ
Surround ทำให้ปัญหาเรื่องสัญญาณคุณภาพต่ำลดน้อยลง นอกจากนี้
การที่มีทีวีดิจิตอลยังช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนในการรับชมข่าวสาร
สาระความรู้มากขึ้น เพราะจะมีช่องรายการเพิ่มขึ้น
และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ
เนื่องจากต่างชาติจะให้ความสนใจในการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
ถ้าอ่านแล้วยังงง ๆ อยู่ ลองมาดูการเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของระบบอนาล็อก และระบบดิจิตอลกัน
ข้อจำกัดของระบบอนาล็อก
1. หากอยู่ใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้าหรือแม่เหล็ก จะส่งผลให้ภาพไม่คมชัด โดยเฉพาะช่องต่ำ
2. หากมีสัญญาณอื่นที่ส่งมาจากสถานีวิทยุหรือโทรทัศน์มารบกวน จะทําให้การรับสัญญาณไม่คมชัด เกิดภาพซ้อน
3.
หากโทรทัศน์ที่รับสัญญาณอยู่ในพื้นที่ที่มีสิ่งปลูกสร้างอย่างตึก
หรือภูเขาบังการรับสัญญาณโทรทัศน์
จะทําให้เครื่องรับไม่สามารถรับสัญญาณได้ดี
4.
แบบอนาล็อกไม่สามารถบีบอัดสัญญาณได้ จึงต้องใช้ความถี่มากในการส่ง
ทําให้มีสถานีน้อย เช่น 1 ช่อง ก็ใช้ได้ 1 รายการเท่านั้น
5. การส่งสัญญาณอื่น ๆ ไปร่วมกับสัญญาณแบบอนาล็อกทําได้โดยยาก เพราะจะมีผลต่อการรบกวนคลื่นสัญญาณ
6. ช่องสัญญาณน้อย ไม่พอการใช้งานที่มีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
7. ไม่สามารถรับชมรายการขณะเคลื่อนที่ได้
ข้อดีของระบบดิจิตอล
1. ระบบดิจิตอลมีระบบการบีบอัดสัญญาณ (Digital Compression)
ทำให้สามารถส่งรายการได้มากขึ้น เช่น เดิมอนาล็อก 1 ช่องใช้ได้ 1 รายการ
เมื่อเปลี่ยนมาเป็นดิจิตอลก็สามารถส่งทางภาคพื้นดินได้ถึง 4-6 รายการ
และผ่านดาวเทียมได้ถึง 8-10 รายการ
2. สามารถให้บริการเสริมอื่น ๆ ได้ (ในกรณีที่กฎหมายอนุญาต)
3. สามารถรับชมขณะอยู่ในพาหนะเคลื่อนที่ได้ เช่น รับชมโทรทัศน์ขณะนั่งอยู่บนรถยนต์ได้ชัดเจนในบางความถี่
4. สามารถให้บริการฟรี (Free to Air) หรือบริการเก็บค่าสมาชิกได้
5. ค่าใช้จ่ายต่อการออกอากาศ 1 รายการลดลง เพราะเครื่องส่ง 1 เครื่อง สามารถส่งได้หลายรายการ
6. เป็นระบบที่สามารถพัฒนาประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้ เพื่อรองรับโทรทัศน์ในอนาคต
7. ช่วยลดการใช้พลังงานของประเทศ
เนื่องจากเครื่องส่งและเครื่องรับโทรทัศน์ระบบดิจิตอล
ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่าเครื่องส่งโทรทัศน์ระบบอนาล็อกมาก
8. ภาพและเสียงคมชัดกว่าระบบอนาล็อก มีคลื่นรบกวนน้อย ไม่มีเงา
หากอยู่ในพื้นที่ที่รับสัญญาณได้ก็จะได้ชมโทรทัศน์ที่คมชัดเลย
แต่หากอยู่ในพื้นที่ที่สัญญาณไม่ถึงก็จะรับชมไม่ได้
ทีวีดิจิตอลของไทยจะมีทั้งหมดกี่ช่อง ?
สำหรับระบบโทรทัศน์รูปแบบใหม่ของประเทศไทยที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี
2557 นี้ จะใช้ระบบ DVB-T2 ซึ่งเป็นระบบ Mpeg4 เป็นมาตรฐาน
โดยทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.)
ได้กำหนดให้เพิ่มช่องรายการโทรทัศน์ภาคพื้นดินของประเทศไทยเพิ่มเป็น 48
ช่อง แบ่งเป็นช่องฟรีทีวีที่ออกอากาศผ่านระบบเดิม (อนาล็อก) จำนวน 6 ช่อง
ส่วนอีก 42 ช่อง จะเป็นช่องฟรีทีวีที่ออกอากาศในระบบดิจิตอล
ทั้งนี้ จำนวน 48 ช่องนี้ ยังแบ่งออกได้อีกตามรูปแบบของช่อง คือ
ช่องรายการทีวีดิจิตอล หมวดสาธารณะ 12 ช่อง
ออกอากาศทางช่อง 1-12 เช่น ช่อง 5, NBT, TPBS ฯลฯ
ช่องธุรกิจ 24 ช่อง ประกอบด้วย
ช่องเด็ก เยาวชน และครอบครัว 3 ช่อง คือ
ช่อง 13 - BEC (ช่อง 3)
ช่อง 14 - MCOT
ช่อง 15 - TV Pool
ช่องข่าวสารและสาระ 7 ช่อง คือ
ช่อง 16 - TNN
ช่อง 17 - TVPool
ช่อง 18 - Dailynews
ช่อง 19 - Spring News
ช่อง 20 - สามเอ (Bright TV)
ช่อง 21 - Voice TV
ช่อง 22 - Nation
ช่องวาไรตี้ ความคมชัดระดับปกติ (SD) 7 ช่อง คือ
ช่อง 23 - Workpoint
ช่อง 24 - True
ช่อง 25 - GMM
ช่อง 26 - กรุงเทพธุรกิจทีวี (เครือ Nation)
ช่อง 27 - RS
ช่อง 28 - BEC
ช่อง 29 - MONO
ช่องวาไรตี้ ความคมชัดสูง (HD) 7 ช่อง คือ
ช่อง 30 - MCOT
ช่อง 31 - GMM
ช่อง 32 - ไทยรัฐ
ช่อง 33 - BEC (ช่อง 3)
ช่อง 34 - AMRIN
ช่อง 35 - ช่อง 7
ช่อง 36 - PPTV
ช่องบริการชุมชน 12 ช่อง
คือช่องทีวีเคเบิ้ลท้องถิ่น หรือช่องรายการทีวีดาวเทียมท้องถิ่น
ซึ่งแต่ละจังหวัดจะรับชมได้ในรายการที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพื้นที่นั้น
ๆ
จะดูทีวีดิจิตอลได้อย่างไร ต้องซื้อโทรทัศน์ใหม่หรือเปล่า ?
คำถามยอดฮิตติดอันดับ 1
ที่หลายคนสงสัยกันมากว่าถ้าจะรับชมทีวีระบบดิจิตอล
ต้องซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่หรือเปล่า
ก่อนอื่นต้องสำรวจทีวีที่บ้านก่อนค่ะว่าเรารับชมโทรทัศน์ในระบบไหนอยู่
หากที่บ้านใช้โทรทัศน์ระบบอนาล็อก
ก็คือโทรทัศน์ที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบันนั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นจอตู้หรือจอแบน ใช้เสาหนวดกุ้งหรือก้างปลา
ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโทรทัศน์ใหม่ให้เปลืองเงิน
เพราะเพียงแค่ซื้อกล่องแปลงสัญญาณ หรือ Set Top Box ที่เป็นระบบ DVB-T2
มาเชื่อมต่อกับเครื่องโทรทัศน์เดิมผ่านช่อง AV สีแดงขาวเหลือง
ก็จะช่วยเปลี่ยนสัญญาณจากระบบอนาล็อกมาเป็นระบบดิจิตอลได้แล้ว
โดยมีหนวดกุ้งหรือเสาก้างปลาเป็นตัวรับสัญญาณ
(ย้ำว่าต้องเป็นกล่องรับสัญญาณ DVB-T2 เท่านั้น ถ้าเป็นกล่องรับสัญญาณ
DVB-T ธรรมดาจะรับสัญญาณไม่ได้นะคะ)
และถ้าทีวีของคุณมีช่องต่อ HDMI ก็จะยิ่งดี
เพราะสามารถนำกล่องมาต่อผ่านช่องนี้เพื่อรับชมสัญญาณได้เลย
ซึ่งจะให้ความคมชัดสูงกว่าการต่อผ่านช่อง AV
แดงขาวเหลืองที่มีในโทรทัศน์รุ่นเก่า ๆ
แม้ว่าจะสามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้เหมือนกัน แต่ภาพจะคมชัดน้อยกว่า
อ้อ ! ที่สำคัญคือ 1 กล่อง ต่อ 1 เครื่องโทรทัศน์เท่านั้น
ถ้าที่บ้านมีทีวีหลายเครื่องแล้วอยากดูระบบดิจิตอลทุกเครื่อง
ก็ต้องซื้อหลายกล่องไปด้วยนะ
หากที่บ้านใช้ทีวีที่รับสัญญาณดิจิตอลได้อยู่แล้ว
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องดูก่อนว่า
ที่ว่ารับสัญญาณดิจิตอลได้นั้นเป็นการรับสัญญาณแบบไหน
เพราะทีวีดิจิตอลที่จะเกิดขึ้นนี้จะรับสัญญาณระบบ DVB-T2
ซึ่งเป็นระบบใหม่ล่าสุด
แต่เครื่องโทรทัศน์ที่วางขายก่อนหน้านี้มักจะรับสัญญาณดิจิตอลได้แค่ระบบ
DVB-T ซึ่งเป็นระบบเก่ากว่า
จึงไม่สามารถรับสัญญาณทีวีดิจิตอลระบบใหม่ได้ค่ะ
ถ้าเช่นนั้น บ้านไหนที่ใช้ระบบ DVB-T
ก็ต้องซื้อกล่องรับสัญญาณมาแปลงเช่นกัน
แต่ถ้าบ้านไหนเพิ่งซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่มาสด ๆ ร้อน ๆ
และมีข้อความระบุว่า เป็น Built-In Tuners ระบบ DVB-T2
ก็สามารถรับชมทีวีดิจิตอลแบบชัด ๆ ได้เลย โดยไม่ต้องซื้อกล่อง
เพียงแค่หาเสาอากาศ มาต่อกับทีวี แล้วจูนหาช่องดูได้เลย
ตรวจสอบโทรทัศน์รุ่นไหนเป็น iDTV สามารถชมทีวีดิจิตอลได้เลย คลิก
หากที่บ้านรับชมโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม หรือเคเบิ้ลทีวี
ถ้าโทรทัศน์ที่บ้านรับชมผ่านจานดาวเทียม (C-Band) หรือเคเบิ้ล
(KU-Band) ไม่ว่าจะเป็นจานดำ จานแดง จานเหลือง จานส้ม
ก็สามารถดูทีวีดิจิตอลได้เลยค่ะ ไม่ต้องหาเสาอากาศ หรือกล่องอะไรมาติดเพิ่ม
เพราะดาวเทียม หรือเคเบิ้ล คือระบบดิจิตอลอยู่แล้ว และทาง กสทช.
ได้กำหนดข้อบังคับตามกฎ Must Carry
ให้แต่ละจานส่งสัญญาณดิจิตอลให้สมาชิกได้ชมด้วย หากไม่ทำจะผิดกฎหมาย
ซึ่งแต่ละเจ้าจะอัพเดทช่องให้เองอัตโนมัติในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม คนที่ใช้โทรทัศน์ระบบเคเบิ้ลจะสามารถชมรายการได้เพียงแค่ 36
ช่องเท่านั้น (คือ ช่องสาธารณะ 12 ช่อง + ช่องธุรกิจ 24 ช่อง)
โดยจะไม่สามารถรับชมช่องบริการชุมชน 12 ช่องได้
เนื่องจากขึ้นอยู่กับการออกอากาศในแต่ละพื้นที่ซึ่งระบบจานดาวเทียมและเค
เบิ้ลทีวีไม่สามารถดึงสัญญาณภาพไปให้บริการได้
แต่เรื่องสำคัญที่ชาวเคเบิ้ลทีวีต้องทราบก็คือ
หากกล่องรับสัญญาณที่คุณติดตั้งอยู่ตอนนี้ไม่ใช่กล่อง HD
อยู่แล้วก็จะไม่สามารถเปิดดูช่อง HD ได้นะ จะดูได้แต่ช่องธรรมดา
ถ้าต้องการดูช่อง HD ด้วยก็ต้องเปลี่ยนเป็นกล่องแบบ HD แทน หรือจะซื้อ Set
Top Box DVB-T2 มาใช้แทนก็ได้ ถ้าสัญญาณทีวีดิจิตอลส่งมาถึงค่ะ
หากที่บ้านเป็นเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น
ในต่างจังหวัด การติดเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นแบบจ่ายรายเดือน
เพื่อให้ดูฟรีทีวีได้ชัดเจน ก็เป็นที่นิยมกันหลายบ้าน
ซึ่งหากระบบดิจิตอลเกิดขึ้นมา
เราก็สามารถดูทีวิจิตอลได้ด้วยการเชื่อมต่อสัญญาณผ่านกล่อง Set Top Box
เช่นกัน
Set Top Box ราคาแพงไหม ?
ทีนี้
หลายคนคงถามต่อไปอีกว่า Set Top Box ราคาประมาณเท่าไร
แล้วจะหาซื้อได้ที่ไหน เรื่องนี้อย่าเพิ่งใจร้อนจ้า เพราะทาง กสทช.
จะนำเงินส่วนหนึ่งจากการประมูลทีวีดิจิตอลมาทำคูปองส่วนลดค่าซื้อกล่องแจก
จ่ายให้กับประชาชนบ้านละ 1 คูปอง
ซึ่งก็ต้องรอการเคาะมูลค่าราคาที่จะแจกให้อีกครั้ง
เบื้องต้นคาดว่าจะแจกคูปองในราคา 690 บาท โดยคำนวนจากราคาเริ่มต้นการประมูล
หารด้วยจำนวนประชากร
แต่หลายคนก็อาจจะสงสัยอีกว่า
ทำไมไม่แจกเป็นกล่องแปลงสัญญาณมาเลย ทำไมต้องแจกคูปองส่วนลดด้วย
นั่นก็เป็นเพราะ Set Top Box ที่วางขายในท้องตลาดมีอยู่หลายรุ่น
แต่ละรุ่นก็มีฟังก์ชั่นการใช้งานแตกต่างกัน
จึงต้องแจกเป็นคูปองให้ประชาชนไปเลือกซื้อ เลือกรุ่นกันตามความพอใจนั่นเอง
โดยราคากล่องทั่วไปน่าจะขายอยู่ที่ราคาประมาณ 1,000-2,000 บาท
ขึ้นอยู่กับสเปคและลูกเล่นต่าง ๆ
ส่วนวิธีการเลือกซื้อนั้น
แนะนำว่าในการซื้อให้สังเกตสติ๊กเกอร์รับรองการตรวจสอบมาตรฐานของ กสทช.
ที่ติดอยู่บนผลิตภัณฑ์ รวมทั้งโลโก้และมาสคอตดิจิตอลทีวี
เพื่อจะได้มั่นใจว่า ถ้าซื้อกล่องมาแล้วนำมาเชื่อมต่อดูทีวีดิจิตอลได้จริง
ถ้าเปลี่ยนเป็นทีวีดิจิตอลแล้ว ฟรีทีวี 3 5 7 9 NBT จะหายไปเลยหรือ ?
ถึงจะเปลี่ยนเป็นระบบดิจิตอลแล้ว ฟรีทีวีเดิม คือ ช่อง 3 5 7 9
NBT ที่ออกอากาศในระบบอนาล็อก ก็ยังสามารถดูได้เหมือนเดิมค่ะ
ไม่ได้หายไปไหน
และยังจะได้ช่องที่เป็นทีวีดิจิตอลซึ่งเป็นฟรีทีวีเหมือนกันแถมมาให้ดูเพิ่ม
ด้วย
งั้นจะขอดูแต่ฟรีทีวีแบบเดิม ๆ ได้หรือเปล่าล่ะ ?
หากไม่ปรารถนาจะดูทีวีระบบดิจิตอล เพราะไม่อยากเปลี่ยนทีวีใหม่
และยังไม่อยากซื้อกล่องแปลงสัญญาณด้วย เพราะเห็นว่า ฟรีทีวี 3, 5, 7, 9,
NBT ก็มีรายการให้ดูมากพออยู่แล้ว
คุณก็ยังสามารถรับชมฟรีทีวีช่องเหล่านี้ได้ตามปกติไปจนถึงปี พ.ศ. 2563
เอ๊ะ...แล้วทำไมถึงดูได้แค่ปี 2563 ล่ะ?
นั่นก็เพราะตามข้อตกลงของอาเซียน กำหนดว่า
แต่ละประเทศสามารถส่งสัญญาณการแพร่ภาพแบบอนาล็อก
ควบคู่ไปกับระบบดิจิตอลได้จนถึงปี 2563 หากพ้นปี 2563 ไปแล้ว
แต่ละประเทศก็จะต้องตัดสัญญาณระบบอนาล็อกทิ้ง ถึงตอนนั้น
ผู้ที่ไม่มีกล่องแปลงสัญญาณ และไม่มีทีวีที่มีระบบ DVB-T2
จะไม่สามารถรับสัญญาณฟรีทีวีแบบอนาล็อกได้อีกต่อไป เพราะฉะนั้น
อย่างไรเสียในอนาคตก็ต้องเปลี่ยนไปดูทีวีระบบดิจิตอลแน่นอน
แต่จะเปลี่ยนช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง
อยากดูทีวีดิจิตอลแล้ว จะเริ่มออกอากาศเมื่อไร อยู่ต่างจังหวัดดูได้ไหม ?
ปกติแล้ว
ทุกประเทศที่เปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิตอลจะยังไม่สามารถส่งสัญญาณให้ครอบคลุมทุก
พื้นที่ 100% ได้ทันที แต่จะใช้วิธีขยายโครงข่ายไปเรื่อย ๆ
เช่นเดียวกับประเทศไทยค่ะ ที่ในปีที่ 1 โครงข่ายจะครอบคลุมเพียง 11 จังหวัด
กว่า 10 ล้านครัวเรือน จากทั้งหมด 22 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 50%
ของจำนวนครัวเรือนทั้งประเทศ และจะขยายออกไปในจังหวัดต่าง ๆ
ให้ครอบคลุมต่อไป โดย 11 จังหวัดที่สามารถชมทีวีระบบดิจิตอลได้ภายในปีนี้
ประกอบด้วย
วันที่ 1 เมษายน 2557 ออกอากาศก่อนใน 4 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา เชียงใหม่ และสงขลา
วันที่ 1 พฤษภาคม 2557 ออกอากาศเพิ่มอีก 3 จังหวัด คือ อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี และระยอง
วันที่ 1 มิถุนายน 2557 ออกอากาศครอบคลุมอีก 4 จังหวัด คือ สิงห์บุรี สุโขทัย ขอนแก่น และอุดรธานี
ดูทีวีดิจิตอลผ่านสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตได้จริงป่ะ ?
ยุคนี้สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่สุดไปแล้ว
เพราะทำได้สารพัด และกับทีวีดิจิตอลเองก็ยังสามารถรับชมผ่านสมาร์ทโฟน
หรือแท็บเล็ตได้ด้วย ถ้ามีจูนเนอร์ DVB-T2
ในตัวหรือติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณทีวีดิจิตอลเช่น แบบ USB dongle
แต่จะรับชมช่องไหนได้บ้าง ความคมชัดแค่ไหน
ก็ขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นของเครื่องอีกเหมือนกัน ถ้ามีจูนเนอร์ DVB-T2
ในตัวหรือติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณทีวีดิจิตอลเช่น แบบ USB dongle
คงไม่เจอปัญหาจอดำเวลามีถ่ายทอดสดกีฬาเหมือนทีวีดาวเทียมแล้วใช่ไหม ?
คนที่ดูทีวีผ่านดาวเทียมคงเซ็งสุด ๆ
ที่เจอจอดำทุกทีเวลามีถ่ายทอดสดรายการกีฬาสำคัญ ๆ ถ้าไม่ใช้เสาหนวดกุ้ง
หรือก้างปลาก็จะดูการถ่ายทอดสดไม่ได้ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นระบบดิจิตอลแล้ว
ปัญหานี้จะหมดไป เพราะอย่าลืมนะคะว่า ทีวีดิจิตอลก็คือ “ฟรีทีวี” นั่นเอง
ไม่ต่างจากเสาหนวดกุ้ง หรือก้างปลา จึงไม่ติดปัญหาลิขสิทธิ์ ทีนี้รายการไหน
ๆ ก็ไม่เจอปัญหาจอดำอีกแล้ว
ทีวีดิจิตอลยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย แต่ก็เป็นเรื่องใกล้ตัวทีเดียว
ก็ต้องรอติดตามกันดูว่า
จะเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นบ้างในวงการโทรทัศน์บ้านเรา
หลังการเปิดตัวของทีวีดิจิตอล
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กสทช. , personnel.psu.ac.th , ที่ดิน เชียงราย, ไทยโพส
Latest
Sponsor
Featured author
admin
Postsข่าวไอที,IT DAY,IT News,ข่าวไอทีวันนี้,เทคโนโลยี,ข่าว google,ipadจีน,ipad ญี่ปุ่น,ข่าว ipad,ไอแพด,ไอพอด,ไอโฟน,ข่าวเทคโนโลยี,ไอทีอัพเดท,เทคโนโลยีสารสนเทศ,ข่าวคอมพิวเตอร์,ไอที,ข่าวไอที, พันทิป, ไอทีอัพเดท, ข่าว IT, ไอที, ทิปไอที, สมาร์ทโฟน, iPhone, Android, Smartphone
Tip IT
Tip Computer
Mobile App
Free Game
Tip IT
Style5[ImagesOnly]
News IT
About Myname Michael
เว็บไซต์ ข่าวไอที อัพเดทข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ ข่าวไอที ข่าวเทคโนโลยี บทความเรื่องราวทางคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต สาระความรู้เกี่ยวกับ เทคโนโลยีใหม่ๆ
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
- Popular Post
- Video
- Category
Popular Posts
-
เชื่อว่าอาการเครื่องค้าง เครื่องแฮงก์หรือหยุดทำงานดื้อๆ เป็นอาการที่ผู้ใช้ทั้งพีซีและโน๊ตบุ๊คต่างต้องเคยเจอกันอยู่บ้างในการทำงาน แม้แต่ในป...
-
สำหรับคนที่เพิ่งลงวินโดวส์ใหม่ แล้วกำลังจะเริ่มใช้งาน แต่เกิดปัญหาที่ว่า พอจะเชื่อมต่อ WiFi หรือไม่ก็จะตั้ง Volume ให้ระบบ กลายเป็นว่ามองไม่...
-
เรื่องอาการแสดงผลหน้าจอเป็นภาพแตกลายบนคอมพิวเตอร์ มีโอกาสเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเกิดจาก ความเสียหายของตัวกราฟฟิกชิปหรืออาจเกิดจา...
-
Windows 7 ด้วยพื้นฐานจะเป็น Windows ที่จัดว่าทำงานได้รวดเร็ว เรียกว่าเป็น Windows ที่น่าใช้กว่าวินโดวส์ในเวอร์ชั่นที่ผ่านมา แต่สิ่...
-
บริการสร้างบล้อกเกอร์และทำเว็บขายของ เทพซ็อป (lnw shop) ในราคาเพียง 600บาท เท่านั้น ผมรับทำในราคา 600 บาท เท่านั้น จริง !!! ข้อมูลไม่...
-
วิเคราะห์อาการเสียของ คอมพิวเตอร์ เบี้องต้น หลักการสำคัญที่สุดของการซ่อมคอมคือการวิเคราะห์อาการครับ สิ่งแรกเลยก็คือเมื่อพบสิ่งผิดปก...
-
ปัญหาเรื่องการ Shutdown หรือปิดการทำงานของคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่า น่ารำคาญอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อต้องเร่งรีบ เช่นปิดเครื่องแล้ว...
-
กรณีที่ Power Supply ไม่เสีย แต่เวลาเปิดคอมแล้วเครื่องคอมยังไม่ยอมทำงาน ไฟยังไม่ยอมเข้าเครื่อง 1. ปุ่มสวิตซ์ปิดเปิดเสีย อันนี้มักจะเกิดกั...
-
วันนี้ ทีมงาน"ซ่อมคอมเชียงราย" มีเคล็ด (ไม่) ลับสำหรับการ เปลี่ยนภาษาหรือ How to change language ใน Windows 7 มาให้ชมกันครับ ซ...
-
คอมเปิดไม่ติด ปัญหาง่ายๆที่ ทุกคนสามารถ ตรวจเช็คหรือซ่อมได้เอง หลายๆท่านอาจเคยพบเจอกับปัญหาของเจ้าคอมพิวเตอร์ตัวโปรด ที่อยู่ดีๆ กับไม่ทำงา...
Video Of Day
Labels
- Free Game (4)
- Mobile App (8)
- News IT (11)
- Tip Computer (23)
- Tip IT (23)
- ข่าวไอที (4)
- ทิปไอที (19)
- บทความคอมพิวเตอร์ (22)
No comments: